ประวัติพันธุ์สุนัขบางแก้ว
ประวัติความเป็นมาของสุนัขบางแก้วนั้นไม่มีบุคคลใดที่ให้คำตอบที่แน่นอนได้ว่าเกิดจากสุนัขพันธุ์ใดกันแน่ เท่าที่ทราบจากคำบอกเล่ากันต่อๆ มาว่าเป็นสุนัข 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ไทย พันธุ์จิ้งจอก และพันธุ์หมาป่า โดยที่มีขนยาวปานกลาง ปากแหลม หางเป็นพวง ซึ่งเป็นลักษณะของสุนัขจิ้งจอก กะโหลกเป็นรูปสามเหลี่ยม ใบหูตั้งสั้นปลายแหลม โคนหูห่างกันมาก เป็นลักษณะของหมาป่า ส่วนลักษณะของสีหรือรูปร่างก็คล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของเรานั่นเอง
ความเป็นมาของหลวงปู่มาก เมธารี เจ้าอาวาสวัดบางแก้ว กับสุนัขบางแก้วคงเป็นเพราะว่าความมีจิตใจเมตตารักสัตว์ ท่านเลี้ยงสัตว์ไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อมีคนนำสัตว์มาให้ท่านก็รับเลี้ยงไว้จนกระทั่งท่านได้รับสุนัขสีดำ ตัวใหญ่ และมีขนยาว เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็ได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขจิ้งจอกหรือสุนัขป่า จึงมีลูกออกมาเป็นสีดำปนกับสีน้ำตาลแดง ตัวใหญ่ และขนยาว หลังจากนั้นก้มีชาวบ้านย้ายถิ่นฐานมาจากหลายจังหวัดมาอยู่ในละแวกบ้านบางแก้วและมีสุนัขกันแทบทุกครัวเรือนจึงทำให้สุนัข
มีโอกาสผสมพันธุ์กับสุนัขของหลวงปู่มากจึงทำให้เกิดสุนัขบางแก้วและเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีน้ำล้อมรอบเมื่อเวลาน้ำไหล
หลากประกอบกับอาศัยอยู่บนเรือนแพจึงทำให้สุนัขมีความจำกัดในการผสมพันธุ์เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็ผสมกันเองอยู่ในเหล่า
เดียวกัน จึงทำให้เกิดสุนัขบางแก้วที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวขึ้น
มาตรฐานพันธุ์
มาตรฐานพันธุ์สุนัขไทยบางแก้ว ที่กำหนดขึ้นโดยชมรมผู้อนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยบางแก้ว พิษณุโลก แห่งประเทศไทย มีดังนี้ คือ
ลักษณะทั่วไป สุนัขบางแก้วมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวคือ มีขนปุยยาว มีความสง่างาม ว่องไวและแข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคล้ายม้า เป็นสุนัขขนาดกลาง รูปทรงตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส อกกว้างและลึกได้ระดับกับข้อศอก ไหล่กว้าง ท้องไม่คอดกิ่ว หน้าแหลม หูเล็ก หางพวง ขนมีสองชั้น นิสัยรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ ค่อนข้างดุ สามารถฝึกหัดได้ ชอบเล่นน้ำมาก
ขนาด ขนาดเท่ากับสุนัขไทย หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ไม่อ้วน ความสูงวัดที่ไหล่ ตัวผู้สูง 42-53 เซนติเมตร ตัวเมียสูง 38-48 เซนติเมตร น้ำหนักตัวผู้ 14-16 กิโลกรัม ตัวเมีย 13-15 กิโลกรัม
ลำตัว ช่วงหัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงตัวตอนท้ายค่อนข้างเล็ก ลำตัวหนาปานกลาง อกลึกปานกลาง ยืดอกเวลายืน ส่วนเอวจะคอดกว่าสุนัขไทย ท้ายลาด สง่าเหมือนสุนัขจิ้งจอก
ขา สังเกตุที่ขาว่าขาหน้าจะใหญ่กว่าขาหลังเล็กน้อย ขาส่วนบนใหญ่และเรียวลงมาถึงข้อเท้า ตั้งตรงแข้งแรง ถ้าดูด้านข้างจะเห็นขนยาวเป็นเส้นตรงจากข้อเท้าด้านหลังขึ้นไปถึงข้อศอกเหมือนขาสิงห์ ขาหลังช่วงล่างมีทั้งตั้งตรงและเกือบตรง ช่วงบนด้านหลังจะมีขนยาว เป็นเส้นตรงขึ้นไปจนถึงโคนหาง เวลายืนท่าปกติจะรับน้ำหนักทรงตัวดี นี้วเรียงชิดกัน ขนที่ปลายนิ้วยาวหุ้มเล็บ
หัว กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม คอยาวกว่าสุนัขไทยทั่วไป กะโหลกศีรษะและปากรับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หูเล็กสั้นตั้งป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนไปข้างๆ เล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ภายในหูมีขนปิดรูหูอย่างสุนัขจิ้งจอก ตาเล็กกลมรี พื้นสีตาเป็นสีเหลืองทองคล้ำ ม่านตาตรงกลางสีดำมีแววของความไม่เชื่อใคร ง่ายๆ ขณะโกรธหรือขู่จะขึ้นแววฟ้า ใสแววที่เรียกว่า ตาเขียว จมูกสีดำ ฟันซี่เล็กขาวคม มีเขี้ยวข้างบน 2 ล่าง 2 ลิ้นเป็นสีชมพู ส่วนมากไม่มีปานดำเหมือนสุนัขไทยทั่วไป
ขน ขนสองชั้น หนา ชั้นล่างละเอียดอ่อนนิ่ม ขนชั้นบนยาวเป็นเส้น เมื่อยังเล็กจะมีขนยาวปุกปุยแน่นทั่วตัว แต่เมื่อโตขึ้นจะมีขนยาวปานกลางแน่นทั้งตัว ขนที่กลางหลังตั้งแต่แผงคอไปยังโคนหางจะยาวกว่าขนบริเวณอื่นๆ มีแผงขนเป็นชั้นช่วงสันหลัง เวลาโกรธจะฟูยกให้เห็นชัดเจน ด้านล่างจากข้อเท้าตอนล่างถึงโคนขาตอนบนจะมีขนยาวพอประมาณ
หาง หางต้องเป็นพวง ถือเป็นลักษณะเด่นที่สืบทอดมาจากสุนัขจิ้งจอก ลักษณะพวงหางแบ่งออกเป็น 3 พวกใหญ่ๆ คือ
1.หางตั้งโค้งไปข้างหน้า บางตัวหางจะเหยียดตรงวางทาบไปบนหลัง
2.หางพุ่งไปด้านหลังแล้วโค้งตั้งขึ้นเหมือนหางดาบ ถ้าหางยาวจะโค้งมาจรดหลัง ถ้ายาวมากจะเบี่ยงลงข้าง ถ้าหางพวงใหญ่มีน้ำ หนักมากหางจะไพล่ห้อยลงข้างตัว
3.หางเป็นพวงลาดแบบแทงดิน ยาวห้อยลงอย่างหางม้า เวลาดีใจเมื่อเดินหรือวิ่งจะแกว่งหางไปมา เวลายืนหากมั่นใจว่าปลอดภัยจะยกหางสูงขึ้นเลยระดับตัวเล็กน้อย
สี สุนัขบางแก้วมีสีหลัก คือ สีดำพื้น สีน้ำตาลพื้น สีน้ำตาลปรายอมดำ(เขียว) สีด่างน้ำตาลขาวนอกจากสีด่างดำขาว หรือสีน้ำตาลขาว ยังแทรกจุดหย่อมเล็กกระจายมากน้อยทั่วตัวอีกด้วย
เสียงเห่า เสียงเห่าแหลมเล็กกว่าสุนัขไทย
การเดินวิ่ง เวลาเดินวิ่งเหยาะย่าง สง่างามเหมือนม้าย่างเท้าสวนสนามปกติจะวิ่งซอยเท้าถี่
ข้อบกพร่อง ใบหูพลิ้ว ไม่มีขนแผงรอบคอ ขาหน้าเล็ก ไม่มีแข้งสิงห์ ไม่มีขนคลุมนิ้วเท้า หูใหญ่ หางขอด ขนหลุดร่วง ฟันบนยื่นกว่าฟันล่าง ปากใหญ่ ตาใหญ่ หูไม่ตั้ง หางไม่เป็นพวง ขนสั้น อัณฑะเม็ดเดียว ฟันขาด 3 ซี่ ขึ้นไปโดยไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ หางขาด ปากทู่ ตากลม สันหลังแอ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น